อร่อย ฟิน กับ เนื้อวากิวระดับพรีเมี่ยม ที่ร้าน DAISUKI Yakiniku Bar & Grill ทองหล่อ 12

เนื้อวากิว เห็นชื่อนี้ ได้ยินชื่อนี้ Beef Lover หูผึ่งกันเลยทีเดียว เพราะถือเป็นสุดยอดแห่งเนื้อ (คุ้นเคยกันดีกับ วากิว, มัสซึซากะ, โกเบ, ฮิดะ) เมเม่ได้มีโอกาสไปร่วมชิมสุดยอดร้านปิ้งย่างกับทาง JGB หรือ Japanese Gourmet Bangkok มาค่ะ ที่ร้านอาหาร DAISUKI Yakiniku Bar & Grill ทองหล่อ 12 เป็นโอกาสพิเศษมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้กินเนื้อย่างอร่อย ๆ ยังได้ฟังเรื่องราวของเนื้อวากิวจากโอกินาว่าอีกด้วย

“DAISUKI Yakiniku Bar & Grill ทองหล่อ 12” ร้านเนื้อย่างที่เป็นผู้เชี่ยวชาญเนื้อย่างตัวจริง จากประเทศญี่ปุ่น ทางร้านไดซูกิได้เล่าว่า เจ้าของร้าน เป็นเจ้าของธุรกิจการเกษตรปลูกและนำเข้า “ส้มชีควาซา” Shiwaza ส้มชื่อดังจากเกาะโอกินาว่า ที่มีกลิ่นและรสชาติโดดเด่น เขาสนใจที่จะทำธุรกิจอาหารในไทย จึงเกิดเป็นร้าน Daisuki ขึ้นมา และแน่นอนว่า “ส้มชิควาซ่า” ก็เป็นส่วนหนึ่งในการปรุงเมนูอาหารในร้านไดซูกิด้วย

DAISUKI ใส่ใจในรายละเอียดต่าง ๆ ตั้งแต่การตกแต่งร้าน ที่เลือกแต่งแบบ Japanese Modern รอบร้านเป็นกระจกใส ทำให้เห็นภายในร้านได้เด่นชัด ทุกโต๊ะจะดูเป็นส่วนตัว ด้วยไฟกลางโต๊ะ พอเข้าไปในร้าน จะสะดุดตากับ บาร์ขนาดใหญ่ตรงกลางก่อนเลย เพราะจะเป็นครัวเย็น และ ทำเครื่องดื่ม ตกแต่งไฟได้สวยและเซ็กซี่ดี โต๊ะอาหารภายในร้าน ถือว่าหรูหรา ใช้โต๊ะไม้ เบาะหนัง เรียบหรู และดูดี แบ่งเป็นโซนนั่งกลุ่ม (4 คน) กับ นั่งคู่ (2คน) และยังมีบริการห้องส่วนตัว 1 ห้อง สำหรับ 8 ที่ ในส่วนของเตาปิ้งย่าง ที่ร้านนี้ใช้ถ่านค่ะ มีตะแกรง 2 ด้าน กับถาดเหล็กตรงกลางไว้ใส่มันหมูและผัดเนื้อได้ เปลี่ยนบรรยากาศจากการกริลล์

บรรยากาศในร้าน

(แอบย่องไปดูห้องน้ำของร้าน DAISUKI กันหน่อย อยากบอกว่า เท่มากค่ะ ดูเข้ากับร้าน ชอบอ่างล้างมือ ใช้เครื่องวัดน้ำมาทำเป็นก็อกน้ำ ในห้องน้ำ มีกระดาษทิชชูใส่แกนไว้หลายอัน ดูได้จากภาพ เท่สุด ๆ)

ก่อนจะเริ่มเมนูอาหาร เลือกเครื่องดื่มกันก่อน มีเมนูซิกเนเจอร์อย่างเมนู Cocktail ที่เสิร์ฟพร้อมหลอดยาว สร้างสีสันและความสนุกสนานให้กับแขก รวมถึงเบียร์สด เย็น ๆ ที่เหมาะกับเมนูปิ้งย่างเป็นที่สุด

มาถึงเมนูอาหาร วันนี้ทางร้าน Daisuki จัดมาให้แบบคอร์ส โดยเริ่มจาก Namul Ohanabatake ผักรวม 8 อย่าง เป็นเครื่องเคียงกับเนื้อ จากที่ฟังทางร้านเล่าให้ฟัง ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่า เลข 8 เป็นเลขมงคลนั่นเอง ผักรวม 8 อย่าง ได้แก่ ปวยเล้ง กะหล่ำม่วง เห็ดหูหนู ถั่วงอก เห็ด แตงกวาญี่ปุ่น พริกหยวก ขิงแดง ทั้งหมดผัดกับน้ำมันงา รสชาติกลมกล่อม แอบกินหมดก่อนแบบไม่รอเนื้อเลยค่ะ

ต่อด้วย สลัดผักราดแองโชวี่ ออกจะกลิ่นแรงไปสักนิด แต่เป็นอาหารเรียกน้ำย่อยได้ดี เพราะยิ่งกิน ยิ่งเพลิน และ ยิ่งหิว จากนั้นก็ถึงคิวของหนึ่งในตัวเอกวันนี้ “โอโตชิ” หรือ กับแกล้มของชาวญี่ปุุ่น เสิร์ฟ 4 อย่าง

"โอโตชิ" หรือ กับแกล้มของชาวญี่ปุุ่น — “โอโตชิ” หรือ กับแกล้มของชาวญี่ปุุ่น

ซูชิซาบูตง ข้าวปั้นหน้าเนื้อวากิว ทั้งกลิ่นและรสสัมผัสแรก เป็นกลิ่นส้มยูสุ ทำให้เนื้อนุ่มและเรียกน้ำย่อยเพิ่มขึ้นไปอีก
วากิว คารูบาโจ้ เนื้อกับชีส ไม่คิดว่าจะเข้ากันขนาดนี้
วากิว ยูเกะ เด็ดที่ รากบัวที่เคลือบด้วยบางอย่างแล้วทอด ทำให้มีความเข้มข้นในตัว รวมถึงซอสที่ราดมาทำให้เป็นอีกหนึ่งคำที่กินแล้ว หิวหนัก

ลาบวากิว โทโคกุ ต้องกินสุดท้าย เพราะแซ่บได้ใจจริงๆ รสชาติไม่เกรงใจต่างชาติเลย อร่อยจริง

จากนั้นก็เข้าสู่เมนูทานเล่น “พิซซ่า ซูชิ” เป็นการผสมผสานอาหารญี่ปุ่นกับอาหารอิตาเลียน และเข้มข้นด้วยชีส ไข่ปลา แต่สดชื่นด้วยกุ้ง แซลมอน และอโวคาโด ส่วนตัวเมเม่ชอบชีส เมนูนี้เลยถูกใจเป็นพิเศษ ทางร้านแนะนำให้ใส่ซอส Tabasco แต่หลังจากได้ลองแล้ว กินแบบไม่ใส่ซอสดีกว่า

แล้วก็ถึงเมนูที่รอคอย เนื้อย่างพรีเมี่ยม (Yakiniku Beef Set) ที่เลือกมาแล้วว่าเป็นส่วนที่เหมาะกับการย่างที่สุด

มีทั้ง Tobobara (สันไหล่) Qeta (ใต้ท้อง) Chabuton (ไหล่บน) Ichibo (ส่วนระหว่างสันนอกและสะโพก) Shintama (เนื้อลูกมะพร้าว) Sirloin (สันนอก) Rump (สะโพก) เนื้อเกรด A5 เลยทีเดียว และมีเรื่องราว ที่มาที่ไปในการเสิร์ฟเนื้อมาบนเรือ เพราะว่า “วัว” ถูกขนส่งทางเรือไปยังเมืองต่าง ๆ นั่นเอง

มาดูน้ำจิ้ม ซึ่งถือว่าเป็นส่วนสำคัญในมื้ออาหารเช่นกัน แต่ละอย่างก็จะมีส่วนช่วยให้รสชาติของเนื้ออร่อยขึ้น ที่ร้านจัดมาให้ 4 น้ำจิ้ม และเกลือ 2 แบบ

– น้ำจิ้มยากินิคุ แบบออริจินัล
– น้ำจิ้มมิโซะ
– น้ำจิ้มซีฟู้ด แบบไทยๆ
– น้ำจิ้มบ๊วย (ผสมกับส้มชิควาซ่าด้วย)

สูตรเด็ดมัดใจคอเนื้ออย่าง “เกลือหิมาลัย” ปกติเมเม่ชอบทานเนื้อวัว แต่ว่าไม่เคยลองกินเนื้อย่างกับเกลือ พอครั้งนี้ได้ลองเลยตื่นเต้น และรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เข้ากันที่สุด “เกลือหิมาลัย” ที่ร้านนำมาให้ลองวันนี้เป็นแบบผสมชาเขียว เลยถูกกลมไปนิดหน่อย

และที่เพิ่งเคยลองครั้งแรกเลยก็คือ “Hawaiian Black Salt” เกลือเกล็ดทมิฬจากเกาะฮาวาย ตัวนี้ฟินสุดแล้ว รู้แล้วว่าทำไมเทพเนื้อทั้งหลายถึงโหยหา “เกลือ” เหลือเกิน เพราะเนื้อย่างกับ Hawaiian Black Salt สามารถดึงรสชาติของเนื้อพรีเมี่ยมออกมาได้ถึงขีดสุด เลอค่าจริง ๆ

ชุดเนื้อย่างพรีเมี่ยม ที่มาพร้อมข้าวและซุป มีให้เลือกหลายแบบ แต่หลัก ๆ ที่น่าจะลงตัวสุด ราคาตามนี้ Black Boat ราคา 2,600 บาท / คน เสิร์ฟพร้อม Wagyu-Beef 6 ชนิด ข้าวกระเทียม 1 ผัก กุ้ง Lobster, ซุป 1 และ White Boat ราคา 1,800 บาท / คน มี Kurobuta 3 ชนิด, ไก่, แซลมอน, ปลาหมึก, หอยแมลงภู่ ข้าวกระเทียม 1 ที่ และ ซุป 1 ถ้วย

วาซาบิเมบาระ (Maebara-wasabi) ใช้เนื้อส่วนหลังเมบาระ มีต้นหอมไทย+ญี่ปุ่น วาซาบิข้างใน กินเปล่าๆก็อร่อย

เซอลอยสุกี้ เป็นเนื้อบาง เสริฟพร้อมไข่แดง และข้าวเป็นข้าวญี่ปุ่นธรรมดา (ไม่ใช่ข้าวสำหรับซูชิ) เวลาย่างให้นำมาย่างประมาณ 5 วิ แล้วชุบไข่แดง แล้วก็นำมาวางบนข้าวปั้นจากนั้นก็กิน เป็นอะไรที่ อร่อย กระทืบเท้า

จากนั้นทางร้านได้นำเครื่องดื่ม ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทางร้านเป็นคนนำเข้าอย่าง “น้ำส้มชิควาซ่า” (shiwasa) มาให้ทดลองดื่ม นอกจากกลิ่นจะหอมแล้ว รสชาติยังทำให้เนื้อที่กินเข้าไป ถูกดึงรสชาติมาให้น้ำลายสอที่กระพุ้งแก้มอีกด้วย

ยังไม่หมดเพียงเท่านั้น ยังมี “โอกินาว่าทาโก้ไร้ท์” การผสมผสานของอาหารญี่ปุ่นและอาหารแมกซิกัน ได้รสชาติใกล้เคียง แต่เนื้อน่าจะนุ่มได้กว่านี้

ปิดท้ายมื้ออาหารด้วย “Daisuki Choose One & Testing” ให้ลองชิมสาเกกันดู มี 3 แบบด้วยกัน

– Junmai Dragon 3 จาก “Hyogo” เป็นสาเกที่ทำให้ได้รับรสชาติ 4ฤดู รสชาติเข้มข้น เหมาะกับเป็นเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อย

– Michisakari Junmai Daiginjyo 45% จาก “GiFu” ดื่มสาเกตัวนี้แล้วรู้สึกสนุก เพราะว่ามีรสชาติไม่น่าเบื่อมีความเปรี้ยวเล็กน้อย ทำให้ดื่มแล้วสดชื่น และเป็นสาเกที่ทำจากข้าวบริสุทธิ์ถึง 45%

– Ryusei Teiban Junmai ginjyo จาก Hiroshima เป็นสาเกที่มีรสอูมามิของข้าว ทำให้ดื่มระหว่างมื้ออาหารได้ดี เป็นสาเกรสชาติดั่งเดิม

ปิดท้ายด้วยของหวาน มะม่วงเกล็ดน้ำแข็งเย็นฉ่ำ ใครที่ชอบกินผลไม้และไอศกรีม เมนูนี้เหมาะที่สุด

ถือเป็นมืออาหารที่เต็มอิ่มไปด้วยรสชาติอาหาร และเกร็ดความรู้จริงๆ ใครที่สนใจอยากลองลิ้มชิมรสเนื้อย่างอร่อยๆ กับบรรรยากาศสุดเก๋ มาลองกันได้นะคะ ที่ร้าน DAISUKI Yakiniku Bar & Grill ทองหล่อ 12 โครงการ Grass thonglor เปิดบริการทุกวัน จันทร์ – อาทิตย์ เวลา 11.30 – 23.00 น. เบอร์โทรศัพท์ 094-241-5017