เที่ยวกาญจนบุรี 2วัน 1คืน เช่ารถตู้พร้อมคนขับ กิน เที่ยว ชิลล์ ล่องแพเปียก

วันนี้เมเม่จะมาเล่าเรื่องทริปเที่ยวกาญจนบุรี ที่เมเม่ไปมาเมื่อช่วงเดือนก่อน เป็นทริปสั้น 2วัน 1คืน การวางแผนทริปนี้ใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่จากไปพักผ่อน หรือไป outing นั่นเอง เราตั้งงบไว้ไม่เกิน 2,000 บาท จุดประสงค์หลักคือ ไปเที่ยวกัน เล่นน้ำ ปาร์ตี้ และคิดเลข ก็เลยแบ่งหน้าที่กัน ช่วยกันในแต่ละส่วน ทั้งเรื่องการเดินทาง จะเช่ารถยังไง ที่พัก จะพักที่ไหนดี ที่ให้เราได้พักด้วยกัน ไม่ต้องแบ่งเป็นห้องๆ กินข้าวที่ไหน เที่ยวที่ไหน

เมเม่รับดูแลในเรื่องการหา รถตู้พร้อมคนขับ ก็เลยลองถามเพื่อนในโซเชียลที่จัดทริปบ่อยๆ ว่าเขาใช้บริการของที่ไหนบ้าง เมเม่เคยหารถเช่าที่ไปพัทยากับเชียงใหม่เท่านั้นก็เลยอยากดูของที่อื่นบ้าง และที่มีคนแนะนำเยอะสุดคือของ Thai Rent a car ก็เลยลองเข้าไปหาข้อมูลดู

เพิ่งรู้ว่าที่ Thai Rent a car การเช่ารถพร้อมคนขับ มี2ส่วน คือ Reservation Department ส่วนกลางจะเป็นคนจองและให้ข้อมูล อีกแบบคือ Limo Department จะเป็นหน่วยงานที่ดูแลการเช่ารถพร้อมคนขับโดยเฉพาะ ซึ่งเมเม่ได้ใช้บริการส่วนนี้

รถตู้ที่เมเม่จอง และเช่าไปกาญจนบุรีครั้งนี้ คือ STANDARD VAN – TOYOTA COMMUTER OR SIMILAR รถตู้พร้อมคนขับ เต็มวัน (08.00-18.00) ราคา 2,200 บาท/วัน (โอที คิด 100 บาทต่อชั่วโมง + ค่าที่พักสำหรับคนขับ คิดคืนละ 600 บาท เขาสามารถหาที่พักเองได้)
หากสนใจจองแบบส่วนกลาง สามารถเมล์ไปที่ booking@thairentacar.com หรือ เบอร์ 02-737-8888 และ แบบ Limo ก็เมล์สอบถามได้เลยที่ limo@thairentacar.com

หลังจากได้รถตู้ ที่พัก และวางแผนเที่ยวกันแบบคร่าวๆแล้ว พอถึงวันเที่ยว นัดกับพี่รถตู้ที่เซ็นทรัลพระราม 9 ในเช้าตรู่ เพราะเราต้องแวะรับ 2 จุดด้วยกัน พี่คนขับของเราทริปนี้ชื่อ พี่อนันต์ ขับรถดี ไม่เร็วเกินไป ใจเย็น และยิ้มแย้มแจ่มใส ถึงขั้นติดใจ หลังจบทริปถามพี่เขาเลยว่าถ้าจองครั้งหน้า ระบุชื่อพี่ได้เลยหรือเปล่า (พี่เขาก็ขำ แต่บอกนะว่าว่างเดือนไหน ฮ่าๆ)

นี่ไง พี่อนันต์ คนขับของพวกเรา

 สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก และ พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า ริมถนนแสงชูโต จ.กาญจนบุรี

ออกเดินทางแต่เช้าก็ดีนะคะเพราะหลีกเลี่ยงรถติด หลังจากรับสมาชิกกันครบแล้ว พี่อนันต์ก็ค่อยๆขับไปเรื่อยๆ ใช้เวลาประมาณ 2ชั่วโมงนิดๆ ก็ถึงกาญจบุรี จุดแรกที่ไปคือ สุสานทหารสัมพันธมิตรดอนรัก และ พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า ริมถนนแสงชูโต ตั้งอยู่ในตัวเมืองของจังหวัดกาญจนบุรี ที่นี่เป็นสุสานของเชลยศึกสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตในระหว่างสร้างทางรถไฟสายมรณะ เป็นการรำลึกถึงผู้เสียชีวิตจากประเทศในเครือจักรภพมากกว่า 5,000 คน และจากฮอลันดา 1,800 คน และมีที่เสียชีวิตจากโรคภัยอีกราว 300คน จากตรงสุสานก็เดินไปที่พิพิธภัณฑ์ทางรถไฟไทย-พม่า ได้ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น. สอบถามรายละเอียด โทร.0-3451-2721

ก่อนออกเดินทางไปยังจุดต่อไป ถ่ายรูปหมู่คณะกันหน่อย

จุดต่อไปคือ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว” เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครที่มาจ.กาญจนบุรีต้องมา และมีร้านอาหารโดยรอบมากมาย รวมถึงของฝากด้วย สะพานแห่งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของเส้นทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ซึ่งใช้หยาดเหงื่อและชีวิตของเชลยศึกมากมาย และปัจจุบันก็ยังเปิดใช้งานตามปกติ มีจุดให้รถไฟจอดเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป

พวกมือบอน น่าให้รถไฟเหยียบ

มุมที่ใครๆก็ถ่ายรูป สะพานข้ามแม่น้ำแคว

เดินมาไกล ต้องรีบเดือนกลับ เพราะรถไฟกำลังจะมา

รถไฟมาพอดี ต้องยืนหลบให้ทัน

เดินถ่ายรูปกันจนเหนื่อยเลยก็เที่ยงพอดี ทุกคนหิวกันมากเลยหาร้านอาหารแถวๆริมน้ำ เลยเลือกเป็น “แพอาหาร โฟลทติ้ง” (Floating Restaurant) ร้านอาหารบรรยากาศดี วิวริมแม่น้ำแคว ที่นี่อาหารไทย อาหารตามสั่ง รวมทั้งแบบบุฟเฟ่ต์สำหรับคนที่มาเป็นกลุ่มใหญ่ด้วย ดูจากหน้าตาอาหารแล้ว ก็โอเคอยู่แต่ไม่ได้ถามราคาว่าหัวละเท่าไหร่ เมูนอาหารที่สั่งก็เน้นกินง่าย ได้เร็ว เพราะทุกคนหิวแล้ว

วิวจากร้านอาหาร “แพอาหาร โฟลทติ้ง” (Floating Restaurant)

ผัดไทย รสชาติกลางๆ

พอร์คชอปซอสเห็ด คุ้มนะ 150 บาท อิ่ม

“แพอาหาร โฟลทติ้ง” (Floating Restaurant) เปิดบริการ 09.00 – 22.00 น.
425 เชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง กาญจนบุรี 71000
เบอร์โทรศํพท์ 034-512-595, 034-625-055

“อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์” แสกน QR code ฟังเรื่องราวประวัตศาสตร์ระหว่างเดินชมได้เลย

ที่จอดรถด้านในกว้างขวาง

อิ่มกันแล้วก็ได้เวลาไปเที่ยวต่อ เราไปกันที่ “อุทยานประวัติศาสตร์เมืองสิงห์” แหล่งรวมความรู้และโบราณสถาน สถาปัตยกรรมขอม ซึ่งถือเป็นแห่งเดียวที่ตั้งอยู่ที่กาญจนบุรี เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ภาคอีสาน ปราสาทเมืองสิงห์ ตั้งอยู่ที่ ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี มีการขุดพบ พระพุทธรูปนาคปรก พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร นางปรัชญาปารมิตา และยังพบ รูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรเปล่งรัศมี คล้ายกับที่พบในกัมพูชา จริงๆเรื่องราวของที่นี้มีเยอะ หากไปถึงที่แล้ว ด้านในจะมีจุด QR code ให้โหลดข้อมูลไปฟังด้วยนะคะ แถมมีหลายภาษาอีกด้วย

แบบห้องแยกสำหรับ 2 คน

ที่นี่มีน้องแมวให้เล่นด้วยนะคะ

อันนี้เป็นที่พักแบบแพริมน้ำ

จากนั้นก็ได้เวลาเข้าที่พัก ครั้งนี้เราพักที่ “บ้านริมแคว แพริมน้ำ” เป็นที่พักริมแม่น้ำแคว มีวิวสวยๆ ที่พักก็มีหลายแบบทั้งแบบบ้านหรือห้องใหญ่ที่พักกันเป็นกลุ่มใหญ่ หรือแบบห้องธรรมดาพักกัน2คน และยังมีที่พักแบบแพ ที่ทำให้ได้บรรยากาศริมน้ำจริงๆ เดินออกจากห้องก็ลงจุ่มน้ำได้เลย แถมเห็นวิวทางรถไฟช่วงทางโค้งสวยสุดอีกด้วย และที่นี่ยังมีกิจกรรมหลากหลายทั้งรอบกองไฟ ดูการแสดงแสงสีเสียง แต่หนึ่งไฮไลท์ที่เมเม่ขอบอกว่า สนุกมาก นั่นก็คือ การเล่นแพเปียก นั่นเอง เขาจะพาผู้เล่นทั้งหมด นั่งไปบนแพและล่องขึ้นไปต้นน้ำ แล้วปล่อยให้ผู้เล่นไหลมาตามน้ำ ซึ่งต้องทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด เพราะน้ำในแม่น้ำแควในบ้างช่วงค่อนข้างเชี่ยวเลยทีเดียว ถือเป็นอีกประสบการณ์ชีวิตค่ะ (ใครที่ว่ายน้ำไม่เป็นก็เล่นได้นะคะ เขาให้ใส่ชูชีพ แต่ถ้ากลัวแนะนำให้นั่งเรือชมค่ะ)

ด้านหลังที่เห็น เป็นทางรถไฟสายมรณะ

ห้องพักของเรา มีระเบียงด้านนอกให้นั่งชิลล์ด้วยค่ะ ร่มรื่นดีมาก บ้านริมแคว แพริมน้ำ จังหวัดกาญจนบุรี

วิวจากห้องพัก เห็นทางรถไฟสายมรณะช่วงทางโค้ง

ในห้องพักแบบใหญ่ มี 2ห้องน้ำ

ห้องพักที่เราพักสำหรับ 10 คน ผู้หญิงนอนด้วยกัน มีห้องน้ำ2ห้อง ตู้เย็น โทรทัศน์ และอุปกรณ์ครบ มีน้ำดื่มให้ด้วยหลายขวด ส่วนผู้ชายพักห้องเดียว อีก 2 ห้อง (ผู้ชายมี 5 คน) สะดวกสบายเหมือนกัน มีประตูเชื่อมด้วย เย็นวันนั้นเราไม่ได้ออกไปไหนกันต่อ เพราะขนม เครื่องดื่มเราซื้อกันมาครบแล้ว และอาหารเย็น เราก็สั่งจากในที่พักเลย อาหารไม่แพง และรสชาติอร่อยด้วย คืนนั้นเราเฮฮา ปาร์ตี้กันถึงดึก ทั้งเล่นกีต้าร์ ร้องเพลง พูดคุย กิน ดื่ม กันสนุกสนาน หลับสบาย จนตอนเช้า มีอาหารเช้า Buffet ด้วยนะคะ อาหารก็ไม่ได้หลากหลายมากแต่ก็อิ่มเลยทีเดียว กว่าจะเช็คเอาท์ออกจากโรงแรมก็เที่ยงพอดี เพราะว่าเดินเล่นถ่ายรูปริมแควกันอีกนาน เกรงใจพี่อนันต์ที่มารอตั้งแต่ช่วงสาย

เตรียมมาพร้อม ขนม

อาหารที่บ้านริมแคว แพริมน้ำ

ยามเช้าที่ บ้านริมแคว แพริมน้ำ

อาหารเช้าเป็นแบบ Buffet

ใครที่สนใจห้องพักแบบกลุ่ม ก็ลองดูได้นะคะ บ้านริมแคว แพริมน้ำ 96/1 หมู่ 3 ต.ลุ่มสุ่ม อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เบอร์  034 561 052 , 034 561 429 หรือ 081 944-0657 หรือที่ http://banrimkwae.com

ออกเดินทางจาก บ้านริมแคว แพริมน้ำ ก็ไปยังถ้ำกระแซ ซึ่งถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกจุดของกาญจนบุรี นอกจากสถานีรถไฟ ที่มีรถไฟผ่านจริงๆ และ ถ้ำกระแซ ที่เป็นจุดพักอาศัยของเหล่าทหารและเชลยศึกในช่วงทำทางรถไฟข้ามสะพานแม่น้ำแคว ที่เป็นช่วงทางโค้งอันตรายที่สุด และมีสงคราม ในถ้ำค่อนข้างมืด มีทางเข้าเล็กๆให้เข้าไปดูจุดที่เคยมีคนอาศัยอยู่ และไหว้พระในถ้ำด้วย ส่วนตรงทางรถไฟสายมรณะนี้ ก็สามารถเดินไปถ่ายรูปได้ ซึ่งเสียวมากค่ะ หวิวๆ เลยทีเดียว

พี่อนันต์มารอแต่วันเลย รถก็สะอาด เรียบร้อย

เป็นคนปกติค่ะ

องค์พระภายในถ้ำกระแซ

จุดนี้เคยมีเชลยศึกอาศัยอยู่

วิวโค้งแม่น้ำแคว

สวย แต่ เสียวอ่ะ มุมนี้

ด้วยแดดและอากาศที่ร้อนแรง เลยทำให้พวกเราเริ่มหิวแล้ว แต่ด้วยความที่ไม่อยากกลับกรุงเทพค่ำนัก ก็เลยตั้งใจแวะไปกินข้าวกันที่ในเมืองกาญจน์ เลยแวะไปที่ร้านครัวชุกโดน ร้านอาหารริมน้ำ บรรยากาศดี ราคาไม่แพง รสชาติอาหารโอเค ส่วนรีวิวร้านนี้ตามไปอ่านกันได้ที่นี่นะคะ

แกงคั่วหอยขม ร้านครัวชุกโดน จังหวัดกาญจนบุรี

แกงป่ารสเด็ด ร้านครัวชุกโดน จังหวัดกาญจนบุรี

ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อน ร้านครัวชุกโดน จังหวัดกาญจนบุรี

ปิดท้ายทริปกาญจนบุรี 2วัน 1คืน ที่ ร้านแก้ว ของฝาก เป็นร้านที่ใครๆต้องแวะซื้อ มีร้านกาแฟด้านหน้าด้วย ของที่ซื้อมาส่วนใหญ่ก็เป็น มะขามสามรส ซึ่งเป็นโอท็อปของจังหวัดนี้เลย จากนั้นก็เดินทางกลับถึงกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ แวะส่งสมาชิกในโซนใกล้บ้าน แล้วปิดท้ายด้วยการเติมน้ำมันแถวรัชดา

ร้านแก้ว ของฝาก เมืองกาญจนบุรี

รวมค่าใช้จ่ายครั้งนี้ คนละ 1,800 บาท (14 คน) ราคานี้รวมค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก/โอทีคนขับ ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่มแล้วนะคะ เป็นทริปสั้นที่หากมีเวลาจะไปอีกแน่นอน แล้วเจอกันใหม่ สวัสดีค่ะ

(32415)