เยี่ยมชม “โรงเรียนในไร่ส้ม” กับ Unicef และ แสนสิริ วันที่ 1

เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เมเม่ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งใน 12 คนออนไลน์ที่ได้ไปเยี่ยมชม การศึกษาของเด็กๆ โครงการโรงเรียนในไร่ส้ม อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ มาค่ะ มีเรื่องราวที่อยากเล่าให้ฟังมากมาย แต่ถึงจะเล่าละเอียดแค่ไหนก็ไม่เท่ากับ เพื่อนๆ ได้ไปเห็นด้วยตาตัวเองหรอกนะคะ ว่าจริงๆแล้ว การศึกษายังไปไม่ทั่วถึงเลย ขนาดเด็กไทยก็ยังไม่ได้รับการศึกษาแบบทั่วถึง และยังมีกลุ่มคนไร้สัญชาติที่มาทำงานในเมืองไทย ที่เขาเองก็อยากจะมีความรู้ และได้รับการศึกษาไม่น้อยกว่าเด็กไทยแต่เขาก็ขาดโอกาสยิ่งกว่าเสียอีก

ก่อนหน้าที่จะได้มาร่วมทริปครั้งนี้ก็ได้รับการติดต่อจากทาง พี่ปี่ แสนสิริ (@dhanis) ชวนมาร่วมกิจกรรมดีๆ กับ Unicef และหลังจากนั้นก็ได้ไปฟังที่มาที่ไปของโครงการและทำความ รู้จักกับ Unicef Thailand มากยิ่งขึ้น เพราะบอกตรงๆเลยว่าก่อนหน้านี้รู้แค่ว่า Unicef ช่วย เหลือเด็กๆ แต่ไม่รู้ว่าช่วยด้านไหนบ้าง แต่พอได้ดูสไลด์และฟังทีมงานยูนิเซฟเล่าให้ฟัง แล้วก็เข้าใจองค์กรมากยิ่งขึ้นเลยค่ะ และนี่ก็ถือเป็นครั้งแรกเลยที่ทางยูนิเซฟ ประเทศไทย เปิดโอกาสให้คนออนไลน์อย่างเราได้มาเยี่ยมชมโครงการที่ยูนิเซฟได้ให้การสนับสนุน เพราะฉะนั้นเนื้อหาที่เมเม่จะเล่าต่อจากนี้จะเป็นประสบการณ์ตรงที่เมเม่ได้ไปร่วมพบเจอมาเอง และได้เก็บภาพ เก็บเรื่องราวความรู้สึกมาถ่ายทอดในสไตล์เมเม่ให้ทุกๆคนได้อ่านกัน

กระเป๋ายังชีพที่สนับสนุนโดย บ.แสนสิริ ใช้ในช่วงที่เยี่ยมชมโครงการ

– Sony BloggieTM Touch
– สมุดโน้ตเล่มใหญา
– ครีมทากันแดด สำหรับผิวหน้า
– ทิชชู่เปียก
– ร่ม กันแดดก็ได้ กันฝนก็ได้
– ยาฉีดกันยุง ช่วยได้เยอะเลยค่ะ
– ปลั๊ก ให้มาเยอะเลยค่ะ
– Flash Drive sansiri 1GB
– ไฟฉาย
– CD เพลง LOVEiS

ระหว่างเดินทางไป อ.ฝาง

ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ โดย TG 106 เวลา 10.30 ดีเลย์นิดหน่อย พอถึงเชียงใหม่ก็มีรถมารอรับอยู่แล้ว แวะไปกินข้าวเที่ยงที่ร้านต๋อง อาหารพื้นเมืองกันก่อน อาหารอร่อยมากค่ะ และทางทีมงานก็ได้แนะนำว่าเรามาทำอะไรกันบ้าง แนะนำทีมงานที่จะอยู่ดูแลเรา และทางแสนสิริก็ได้มอบถุงยังชีพให้พวกเรา มีของใครครบครันเลยค่ะ ขอบคุณอีกครั้งนะคะ และภาพถ่ายในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะมาจาก Sony Bloggie Touch ที่ทางแสนสิริได้ให้เราใช้บันทึกเรื่องราวการเยี่ยมชมการศึกษาของเด็กๆ มาฝากทุกๆคน

“เด็กทุกคนเลือกเกิดไม่ได้ แต่ถ้าเด็กทุกคนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะสิทธิทางด้าน การศึกษา เด็กทุกคนก็น่าจะมีชีวิตรอดและปลอดภัย”

เมื่อกินข้าวกันอิ่มแล้ว ใช้เวลาสองชั่วโมงกว่าๆจากเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่อ.ฝาง มาที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จ.เชียงใหม่ เขต 3 ใน อ.ฝาง เพื่อรับฟังรายละเอียดโครงการ โดย กิตตินันท์ โนสุข ผอ.เขต และคุณอดุลย์ จากกลุ่มเพื่อนเด็ก และทาง Unicef จากนั้นเราก็ไปยัง โรงแรมแทนเจอริน วิลล์ แวะกินข้าวเย็นกันก่อน แล้วก็ออกไปยังโรงเรียนในไร่ส้ม ตอนกลางคืน

ณ โรงเรียนในไร่ส้ม ตอนกลางคืน ทางเข้าลึกลับ ต้นไม้สูง พื้นเป็นดินโคลนบางช่วง ไฟไม่มีเลย เมื่อเข้าไปถึงเราต้องอาศัยไฟรถ และ ไฟฉาย ส่องนำทางเราเข้าไปด้านใน ดูคลิปที่เมเม่ถ่ายไว้ตอนเดินเข้าไปที่โรงเรียนในไร่ส้มกลางคืน

http://www.youtube.com/watch?v=nxWroWSxfAI

มีคุณครูจิตอาสามาช่วยสอนเด็กๆไร้สัญชาติ ชื่อ ครูสายพิณ ครูคนนี้มาด้วยใจอาสาจริงๆ เท่าที่ได้คุยกับครู ครูเล่าให้ฟังว่า ตอนแรกเลยครูสอนคนเดียว แฟนคอยมารับมาส่งไม่ค่อยเห็นด้วยที่มาสอนแบบนี้ แล้วครูเองก็เป็นคนไปชวนเด็กๆมาเรียนโดยไปหาเด็กๆที่บ้านเลย ไปขอกับพ่อแม่ ซึ่งพ่อแม่เขาก็ไม่เข้าใจ ไม่ยอมให้มา เพราะว่ามาเรียนก็ไม่ได้อะไร ก็ต้องกลับไปทำไร่อยู่ดี กว่าจะได้เด็กมาเรียนหนังสือก็ยาก แถมยังไม่มีใครให้สถานที่อีกด้วย กว่าจะได้ห้องเรียนกลางไร่ส้มอย่างทุกวันนี้ก็ต้องใช้เวลานาน

เด็กๆตั้งใจเรียนกันมาก วันนี้่คุณครูสอนเรื่องอวัยวะในร่างกายของเรา

ตอนนี้แฟนของครูสายพิณ ก็มาร่วมสอนด้วย โดยสอนในส่วน 7 วิชา กสน. สำหรับหนุ่มสาว และ พระ เณร ที่ส่วนใหญ่จะยังไม่มีสัญชาติไทย และต้องทำงานตอนกลางวัน เวลามีเวลามาเรียนแค่ตอนกลางคืน วิชาที่สอนนอกจากจะเป็นภาษาที่ใช้เขียนอ่านกันแล้ว ก็ยังสอน วิชาชีพ สอนให้ใช้ชีวิตประจำวันได้ ครูสายพิณ เล่าไปก็น้ำตาคลอไป เพราะว่าที่นี่ยังขาดแคลนในหลายๆเรื่องบางทีคุณครูก็ซื้อขนมซื้ออุปกรณ์การเรียนมาให้เด็กๆเองด้วย

ครูสายพิณ หรือ ครูเอ ของเด็กๆ ครูอาสาจิตใจงาม

เด็กๆดีใจที่มีคนมาหา และ ให้ความสนใจพวกเขา

ระหว่างที่ได้สัมภาษณ์ครูสายพิณ เมเม่เองก็น้ำตารินๆเหมือนกัน เด็กๆที่มีโอกาสได้เรียนทุกวันนี้โชคดีแล้วนะ ตั้งใจเรียนและสนใจกันหน่อย ยังมีคนที่อยากเรียนแต่โอกาสน้อยอีกมาก หลังจากได้ดูการเรียนการสอนของโรงเรียนในไร่ส้มภาคกลางคืนแล้ว ก็ได้เวลาร่ำลากับน้องๆ เพราะพวกเขาเดินทางมาไกล ใช้เวลากลับบ้านนาน ถ้าดึกกว่านี้จะลำบาก มาดูคลิปสัมภาษณ์คุณครูสายพิณกันเลยค่ะ

ข้อสรุปจากการได้มาเยี่ยมดูการศึกษาของเด็กๆในวันแรกนั้น เด็กยังขาดโอกาสอีกมากทางการศึกษา รวมทั้งสถานที่และอุปกรณ์การเรียน ยิ่งเด็กไร้สัญชาติด้วยแล้ว พวกเขามีความใฝ่รู้ แต่ขาดโอกาสจริงๆค่ะ และ “เด็กๆยังต้องการความรักความเอาใจใส่อีกมากนะคะ”

(954)

เมเม่พาชิม